เป็นปัญหาสำหรับสาวๆคนไหนที่ร้อยไหม ต้องเจออยู่เป็นประจำจากการทำร้อยไหม วันนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงสาเหตุที่ใบหน้ามีอาการบวมหลังจากทำการร้อยไหม เพื่อไขข้อสงสัย สำหรับสาวๆ ที่กำลังเป็นกังวลกับอาการบวมครั้งนี้ เราไปดูกันเลยค่ะ ว่าปัจจัยทั้ง 4 เกิดมาจากอะไรบ้าง
เกิดได้จาก 4 สาเหตุหลักๆ
1. เนื้อแก้มเยอะ หรือดึงเยอะเกินไป
วิธีร้อยไหมที่หน้าในคนที่มีเนื้อแก้มเยอะ แนะนำให้ทำเมโสแฟต ให้แก้มน้อยลงก่อน จะทำให้สามารถดึงไหมได้เยอะขึ้นเพราะประโยชน์ของการร้อยไหมไม่ได้ช่วยลดไขมันบนใบหน้าค่ะ
ถ้าคนที่ใจร้อนก็สามารถร้อยไหมได้ แต่ก็จะดึงได้น้อยลง ถ้าดึงเยอะเนื้อแก้มก็จะไปกองด้านบน ทำให้ดูเหมือนหน้าบวมได้ค่ะ ซึ่งในกรณีแบบนี้จะบวมนานเกิน 1 เดือน ต้องรอให้ไหมเริ่มคลาย 2-3 เดือนถึงจะเริ่มดีขึ้น
ในบางเคสที่เนื้อแก้มเยอะ การร้อยไหมจะช่วยให้เนื้อแก้มน้อยลงได้ค่ะ โดยผ่านกระบวนการ fat-reposition(การดึงไขมัน)ด้วยการร้อยไหม แต่จะต้องใช้เวลาหลายเดือน และต้องร้อยไหมหลายครั้งค่ะ
2. การดึงไหมผิดแนว
ถ้าร้อยไหมเพื่อดึงร่องแก้ม จะทำให้โหนกแก้มเนื้อเยอะขึ้นและทำให้หน้าดูบวมได้ค่ะ ปกติการร้อยไหมจะเน้นแก้ไขความหย่อนของแก้มในบริเวณใกล้ๆ มุมปาก ร้อยไหมกรอบหน้ามากกว่าค่ะ
ร้อยไหมส่วนไหนได้บ้าง
จะเห็นว่าการร้อยไหมนั้นต้องอาศัยเทคนิคและความชำนาญในการประเมินทรงหน้าของแพทย์ด้วยค่ะ จึงจะทำให้ผลในการร้อยไหมออกมาสวยและเข้ารูป
3. การอักเสบติดเชื้อ
ปกติหลังร้อยไหม ในช่วง 3-4 วันแรกจะบวมมากขึ้น และหลังจากนั้นอาการบวมจะเริ่มยุบลงจนเข้าที่ใน 14 วัน แต่ถ้าหลังจาก 4 วันแล้วยังบวมแดงมากขึ้น ปวดมากขึ้น ต้องรีบกลับมาพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินและให้ยากินเพิ่มค่ะ
4. บวมเลือด, บวมน้ำ
บวมเลือด คือ มีเลือดออกในชั้นผิว(hematoma)
บวมน้ำ คือ มีน้ำคั่งในชั้นผิวจากการอักเสบ(edema)
ซึ่งทั้ง 2 กรณี จะยุบหายไปเองในระยะ 2-3 อาทิตย์ โดยไม่มีอันตราย